กิจจาคลินิกทันตกรรม

การเข้าใจพฤติกรรมการกัดฟัน (Bruxism): สาเหตุ อาการ และวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพ

หากเราใช้ความแรง 3 ถึง 10 เท่าของที่ใช้ในการทำให้เปลือกวอลนัทแตกออก แล้วจินตนาการถึงความแรงเท่านี้ที่กระแทกในปากของคุณโดยการใช้ฟันกรามของคุณบดเคี้ยว มันคือ การกัดฟัน หรือโรค Bruxism ซึ่งในบทความนี้ เราจะสำรวจว่า การกัดฟันคืออะไร ใครเป็นกลุ่มเสี่ยง สัญญาณ และวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและจัดการกับโรคนี้ได้

ความเข้าใจเกี่ยวกับการกัดฟัน: การชนของฟันกับฟันเรียกว่า " Brukhé " ในภาษากรีกโบราณ ขณะที่ในปัจจุบัน นักวิชาการเห็นตรงกันว่า การกัดฟันมีลักษณะที่ซับซ้อนและหลากหลายกว่านั้น ซึ่งมีคุณสมบัติเป็น "พฤติกรรม" หรือ "ภาวะ" ในบุคคลที่เป็นปกติทั่วไป โดยการกัดฟันเป็นกิจกรรมของกล้ามเนื้อของขากรรไกรที่เกิดซ้ำ ๆ และรวมถึงการบด กัด และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

การกัดฟันในสภาวะที่ตื่นอยู่ เรียกว่า การกัดฟันในระหว่างวัน และการกัดฟันในเวลากลางคืน หรือขณะนอนหลับ มีความเกี่ยวข้องแต่แตกต่างกัน ซึ่งต้องได้รับการรักษาที่แตกต่างกัน และบางคนมีสภาวะการกัดฟันทั้งกลางวันและกลางคืนพร้อมกัน

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ทันตแพทย์ James M. Uyanik, DDS, รองศาสตราจารย์ผู้ช่วยด้านคลินิกที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก คณะทันตกรรม เมืองนิวยอร์กซิตี้ กล่าวว่า "การกัดฟัน เป็นนิสัยของขากรรไกรขนิดหนึ่ง"

ใครเป็นกลุ่มเสี่ยงในการกัดฟัน? เกือบครึ่งหนึ่งของเด็ก ๆ ผ่านช่วงการนอนกัดฟันในเวลากลางคืนมาแล้ว ในขณะที่เกือบหนึ่งในสามของประชากรทั่วไปของสหรัฐฯ ประสบปัญหาการกัดฟัน ตามแบบสำรวจของสมาคมทันตแพทย์ทั่วไป Academy of General Dentistry

จากการค้นหาบน Google ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงระบบ แสดงให้เห็นว่า การกัดฟันมีการเพิ่มขึ้นตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 เริ่มต้น เนื่องจากการกัดฟันเกี่ยวข้องกับภาวะความเครียด

ทว่าในทางตรงกันข้าม ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพช่องปากกลับบอกว่า ผู้ป่วยที่มาด้วยการกัดฟันมีน้อยลงอย่างมากในปัจจุบัน เพราะ "แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า พวกเขากำลังกัดฟัน” กล่าวโดย ทันตแพทย์ Lokesh Rao, DDS

การระบุปัจจัยเสี่ยง: ผู้มีภาวะเครียด: คนที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสำคัญ หรือเหตุการณ์ที่เข้าขั้นรุนแรง และอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ผู้นอนไม่หลับ: ผู้มีปัญหาการสบฟัน และผู้มีปัญหาในการหายใจระหว่างการนอนหลับ อาจมีภาวะการกัดฟันในระหว่างการนอนได้ ผู้บริโภคแอลกอฮอล์ และผู้เสพติด: การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มโอกาสในการกัดฟัน พันธุกรรม: การกัดฟัน อาจส่งต่อกันทางพันธุกรรม ผู้ใช้ยาต้านความเครียด: ยาต้านความเครียดบางประเภทอาจมีผลข้างเคียงให้เกิดการกัดฟันได้ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคบางชนิด: เช่น โรคพาร์กินสัน, สมองเสื่อม, กรดไหลย้อน, โรคลมชัก และอื่น ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการกัดฟัน

สัญญาณของการกัดฟัน: เมื่อคนไข้มาหาทันตแพทย์ และแจ้งว่ามีอาการปวดหัว ปัญหาในการนอนหลับ หรือมีความเจ็บปวดต่าง ๆ ทันตแพทย์จะค้นหาสัญญาณเพื่อยืนยันถึงภาวะการกัดฟัน เช่น

มีฟันเสียหาย หรืองานทันตกรรมเสียหาย มีเสียงในเวลากัดฟัน มีอาการเสียวฟัน เจ็บฟัน ปวดกล้ามเนื้อ ขากรรไกร และคอ มีอาการปวดหัว มีปัญหาการนอนหลับ มีอาการเวียนศีรษะ หรือปวดหู

วิธีการรักษาการกัดฟันในเวลากลางวัน: ผู้กัดฟันในระหว่างเวลากลางวันหลายคนมักกัดฟันเมื่ออยู่ในช่วงเวลาของอารมณ์รุนแรง ความเสี่ยงนี้สามารถรักษาได้โดยใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น - รู้ตัวเมื่อมีภาวะกัดฟัน หยุด และเลิกทำ - หากิจกรรมอื่นทำแทนเมื่อเกิดภาวะการกัดฟัน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ ฝึกการออกเสียงตัวอักษร "N" หรือ “น” จะทำให้ฟันด้านล่างและฟันด้านบนแยกกันโดยอัตโนมัติ และปากของคุณเข้าสู่ตำแหน่งผ่อนคลาย ทั้งยังเป็นการสร้างนิสัยใหม่ให้ตัวเองอีกด้วย

วิธีการรักษาการกัดฟันในระหว่างการนอนหลับ: สำหรับผู้กัดฟันในเวลากลางคืน การเปลี่ยนแปลงนิสัยการนอนหลับโดยไม่กระทบกับการนอนเป็นเรื่องยาก แต่มีวิธีที่แนะนำดังนี้:

- สุขอนามัยในการนอนหลับ - การผ่อนคลายจากความเครียด - อุปกรณ์ occlusal (การใส่ mouthguard หรือ nightguard เวลานอน) - การปรับยาที่ใช้อยู่ - การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้า Transcutaneous electrical nerve stimulation (TENS) - กายภาพบำบัด - เลือกใช้ยารักษา (ในกรณีที่รุนแรง)

ความเชื่อมโยงระหว่างการกัดฟัน และ TMD: เมื่อการกัดฟันก่อให้เกิดความเสียหายหนัก หรือเป็นสาเหตุของความเจ็บปวดร้ายแรง ทันตแพทย์อาจวินิจฉัยว่า เป็นโรคภาวะบกพร่องของข้อต่อขากรรไกร (TMD) ซึ่งเป็นการบกพร่องของข้อต่อขากรรไกร (TMJ) นั่นเอง

ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญ: คนที่มีโรคภาวะบกพร่องของข้อต่อในช่องปาก TMD อาจมีเสียง คลิ๊ก หรืออาการล็อกของข้อต่อขากรรไกร (TMJ) หรืออาจไม่สามารถเปิดปากให้เต็มที่ การรักษาต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอาการปวดจากอาการขากรรไกร หรือทันตแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้าช่วย

ข้อสรุป: แม้การกัดฟันจะเกิดจากหลายสาเหตุ และต้องเข้ารับการรักษาในหลายวิธี แต่การเข้าใจตัวโรค และการระบุปัจจัยเสี่ยง สามารถช่วยให้คุณมีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ และจัดการกับมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเลือกการจัดการที่มีประสิทธิภาพรวมถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การใช้อุปกรณ์ทันตกรรม และการรักษาทางการแพทย์ โดยไม่ลืมสังเกตสัญญาณของการกัดฟัน คุณต้องพร้อมรับมือกับมัน จึงจะสามารถป้องกันปัญหาทางทันตกรรม และสุขภาพ หากคุณสงสัยว่าคุณมีภาวะการกัดฟัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเพื่อรับการประเมินและแผนการรักษาที่ปรับให้เหมาะกับคุณ

Credit: https://www.everydayhealth.com/

SnoreLab
BruxApp
Do I Snore or Grind?
BiteStrip